เมนู

ศึกษาอยู่ในอธิศีล มีความเลื่อมใสเจริญยิ่ง ๆ ขึ้น
ไปในภิกษุทั้งหลาย ไม่ตั้งจิตติเตียนปรารถนา
ฟังสัทธรรม ไม่แสวงหาเขตบุญอื่นภายนอก
ศาสนานี้ แลพกระทำสักการะก่อนในเขตบุญใน
ศาสนานี้ อุบาสกนั้นซ่องเสพธรรมอันไม่เป็น
ที่ตั้งแห่งความเสื่อม อันเราแสดงดีแล้ว 7 ประการ
การนี้แล ย่อมไม่เสื่อมจากสัทธรรม.

จบ วิปัตติสัมภวสูตรที่ 10

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. สารันททสุตร 2. วัสสการสูตร 3. ภิกขุสูตร 4. กรรม-
สูตร 5. สิทธิยสูตร 6. ฑยธยสูตร 7. สัญญาสูตร 8. เสขสูตร
9. หานิสูตร 10. วิปัตติสัมภวสูตร
จบ วัชชีวรรคที่ 3

เทวตาวรรคที่ 4


1. อัปปมาทสูตร


[29] ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว เทวดาคนหนึ่ง
มีผิวพรรณงาม ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ธรรม 7 ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อม
ก็ภิกษุ 7 ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นเคารพในพระศาสดา 1
ความเป็นผู้เคารพในธรรม 1 ความเป็นผู้เคารพในสงฆ์ 1 ความ
เป็นผู้เคารพในสิกขา 1 ความเป็นผู้เคารพในสมาธิ 1 ความเป็น
ผู้เคารพในความไม่ประมาท 1 ความเป็นผู้เคารพในปฏิสันถาร 1
ธรรม 7 ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ
เทวดานั้นกราบทูลดังนี้แล้ว พระศาสดาทรงพอพระทัย ลำดับนั้น
เทวดานั้นทราบว่า พระศาสดาทรงพอพระทัยเรา ถวายอภิวาท
กระทำประทักษิณแล้วหายไป ณ ที่นั้นเอง ครั้นล่วงราตรีนั้นไป
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ก่อนภิกษุทั้งหลาย
เมื่อคืนนี้ เมื่อปฐมยามล่วงไป เทวดาตนหนึ่งมีผิวพรรณงาม ยังวิหาร
เชตวันทั้งสิ้นไห้สว่างไสวแล้ว เข้ามาหาเราถึงที่อยู่ ไหว้เราแล้ว
ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กล่าวกะเราว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ธรรม 7 ประการนี้ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อม